กองทุนเงินให้กู้ยืมฯ (กรอ.)
กองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
นักศึกษารหัส 56XXXX ทุกคน ที่มีความประสงค์ต้องการขอกู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ปี 2556 (รายใหม่) สามารถดาวน์โหลดเอกสาร (คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด) เตรียมไว้ล่วงหน้า สำหรับวันส่งใบสมัครจะกำหนดให้ทราบในภายหลังหลังจากที่ระบบเปิด
คณะที่มีสิทธิ์กู้ยืมทุน กรอ. (ล่าสุด)
1. คณะพยาบาลศาสตร์
2. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
- สาขาจุลชีวิทยาอุตสาหกรรม
3. คณะเภสัชศาสตร์
4. คณะเทคนิคการแพทย์
5. คณะกายภาพบำบัด
6. คณะสาธารณสุขศาสตร์ฯ
- สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
7. คณะการแพทย์แผนจีน
8. คณะศิลปศาสตร์
- สาขาภาษาอังกฤษ
- สาขาการท่องเที่ยว
9. คณะบริหารธุรกิจ
- สาขาการบัญชี
- สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
- สาขาการจัดการโลจิสติกส์ฯ
กองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
ด้วยคณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2555 ให้ดำเนินการโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษาที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2555 โดยให้ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนสำหรับ นักศึกษาในระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาชั้นสูง และเพิ่มความช่วยเหลือเป็นค่าครองชีพระหว่างศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้นักศึกษา ที่ศึกษาในระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาชั้นสูงในหลักสูตรสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักและมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคน และให้ผู้รับทุนเริ่มใช้คืนเงินกู้ โดยจะยึดโยงกับความสามารถในการหารายได้ในอนาคต
คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์กู้ยืมเงิน
1.มีสัญชาติไท
2.อายุไม่เกิน 30 ปีบริบูรณ์ ในวันที่ 1 มกราคม 2556
3.มิได้เป็นผู้รับทุนรายเก่าของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
4.เป็นนักศึกษารายใหม่ที่ขอรับทุนเพื่อการศึกษาในชั้นปีที่ 1 ในปีการศึกษา 2555 ที่มิใช่ผู้กู้ยืมรายเก่าของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หรือเป็นนักศึกษาที่เป็นผู้กู้ยืมเงินรายเก่าของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ที่เปลี่ยนระดับจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าทั้งสายสามัญและสายอาชีพเป็นระดับอาชีวศึกษาชั้นสูงหรือเทียบเท่าระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า ในปีการศึกษา 2555
5.เป็นนักศึกษาในสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนในระดับการศึกษาอนุปริญญาตรีหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่าระดับปริญญาตรี ตอบรับให้เข้าศึกษาโดยผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
6.นักศึกษาผู้มีสิทธิขอรับทุนจะต้องศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่มีรายชื่อเข้าร่วมโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคตตามประกาศของสำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
7.นักศึกษาที่มีสิทธิได้รับค่าครองชีพ ต้องเป็นผู้มีรายได้ครอบครัวไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี และให้ได้รับค่าครองชีพในอัตราเดือนละ 2,200 บาท
การพิจารณารายได้ครอบครัว ให้ผู้บริหารสถานศึกษาพิจารณากลั่นกรองข้อมูลตามหลักเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้
1.รายได้รวมของนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของบิดาและมารดากรณีที่บิดา มารดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง
2.รายได้รวมของนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของผู้ปกครองในกรณีที่ผู้ใช้อำนาจปกครองไม่ใช่บิดา มารดา
3.รายได้รวมของนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของคู่สมรสในกรณีที่ผู้ขอรับทุนสมรสแล้ว
นักศึกษาผู้มีสิทธิขอรับทุนจะต้องศึกษาในระดับการศึกษาและหลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชาดังนี้
1.ระดับการศึกษา ระดับอนุปริญญาตรี หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า ระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
2.หลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชา เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกองทุนเพื่อการศึกษา เรื่อง กำหนดหลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักและมีความชัดเจนของการผลิตกำหลังคน สำหรับนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการปีการศึกษา 2555 พ.ศ.2555
3.นักศึกษาสามารถขอรับทุนได้เพียงหนึ่งหลักสูตรในแต่ละปีการศึกษาไม่เกินอัตราค่าเล่าเรียนที่สถานศึกษาเรียกเก็บ ตามจำนวนปีที่กำหนดไว้ในแต่ละหลักสูตร กรณีที่ผู้ขอรับทุนมีสิทธิเบิกค่าเล่าเรียนจากหน่วยงานของรัฐให้ผู้ขอรับทุนขอรับทุนเฉพาะค่าเล่าเรียนส่วนต่างเท่านั้น ทั้งนี้ ต้องไม่เกินอัตราที่กำหนด ดังต่อไปนี้
ระดับอนุปริญญาตรีและปริญญาตรี
1.สัมคมศาสตร์ ศิลปศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ อัตราสูงสุด 60,000 บาท/ปีการศึกษา
2.ศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ อัตราสูงสุด 70,000 บาท/ปีการศึกษา
3.วิศวกรรมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อัตราสูงสุด 70,000 บาท/ปีการศึกษา
4.เกษตรศาสตร์ อัตราสูงสุด 70,000 บาท/ปีการศึกษา
5.สาธารณสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ อัตราสูงสุด 90,000 บาท/ปีการศึกษา
6.แพทย์ศาสตร์ สัตวแพทย์ศาสตร์ ทันตแพทย์ศาสตร์ อัตราสูงสุด 200,000 บาท/ปีการศึกษา
นักศึกษาผู้ขอรับทุนจะต้องปฏิบัติดังนี้
1.ยื่นคำขอกู้ยืมผ่านระบบที่สำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจัดทำไว้ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายในระยะเวลาที่กำหนด
2.ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมตรงกับความเป็นจริง
3.ดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง และต้องเก็บรักษารหัสผ่านที่ได้รับจากกองทุนเพื่อการศึกษาไว้เป็นความลับ หากผู้ใดยินยอมให้บุคคลอื่นดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนให้ถือว่าเป็นการดำเนินการด้วยตนเอง
4.แจ้งการเปลี่ยนชื่อ ย้ายที่อยู่หรือย้ายสถานศึกษา และจบการศึกษา หรือพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา ภายในสิบห้าวันนับแต่วันเปลี่ยนชื่อ ย้ายที่อยู่ ย้ายสถานศึกษา จบการศึกษา หรือพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาต่อผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม
5.แจ้งสภาพการเป็นนักศึกษาทุปีที่ผู้รับทุน(ผู้กู้ยืมเงิน)ไม่ได้รับทุนแต่ยังศึกษาอยู่ ต่อผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม