Get Adobe Flash player
ป้ายโฆษณา
ป้ายโฆษณา
ช่วงเวลาที่คุณสะดวกในการส่งใบสมัครขอกู้ยืมทุน ปี 2557
 
สมาชิก : 13114
Content : 25
เว็บลิงก์ : 6
จำนวนครั้งเปิดดูบทความ : 774719
mod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_countermod_vvisit_counter
mod_vvisit_counterToday1450
mod_vvisit_counterYesterday1405
mod_vvisit_counterThis week2855
mod_vvisit_counterLast week5884
mod_vvisit_counterThis month28458
mod_vvisit_counterLast month52300
mod_vvisit_counterAll days2992567

We have: 27 guests online
Your IP: : 18.191.97.133
Mozilla 5.0, 
Today: พฤศจิกายน 21, 2024
Home กรอ. กองทุนเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)

กองทุนเงินให้กู้ยืมฯ (กรอ.)

กองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)

นักศึกษารหัส 56XXXX ทุกคน ที่มีความประสงค์ต้องการขอกู้ยืมเงินกองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.) ปี 2556 (รายใหม่) สามารถดาวน์โหลดเอกสาร (คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลด) เตรียมไว้ล่วงหน้า สำหรับวันส่งใบสมัครจะกำหนดให้ทราบในภายหลังหลังจากที่ระบบเปิด

คณะที่มีสิทธิ์กู้ยืมทุน กรอ. (ล่าสุด)
1. คณะพยาบาลศาสตร์
2. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
- สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์
- สาขาจุลชีวิทยาอุตสาหกรรม
3. คณะเภสัชศาสตร์
4. คณะเทคนิคการแพทย์
5. คณะกายภาพบำบัด
6. คณะสาธารณสุขศาสตร์ฯ
- สาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
7. คณะการแพทย์แผนจีน
8. คณะศิลปศาสตร์
- สาขาภาษาอังกฤษ
- สาขาการท่องเที่ยว
9. คณะบริหารธุรกิจ
- สาขาการบัญชี
- สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
- สาขาการจัดการโลจิสติกส์ฯ


กองทุนเงินให้กู้ยืมที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)

ด้วยคณะรัฐมนตรีมีมติ  เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม  2555  ให้ดำเนินการโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษาที่ผูกพันกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)   ตั้งแต่ภาคเรียนที่  1  ปีการศึกษา  2555 โดยให้ทุนการศึกษาแบบต้องใช้คืนสำหรับ นักศึกษาในระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาชั้นสูง  และเพิ่มความช่วยเหลือเป็นค่าครองชีพระหว่างศึกษาสำหรับผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสให้นักศึกษา  ที่ศึกษาในระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาชั้นสูงในหลักสูตรสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักและมีความชัดเจนของการผลิตกำลังคน และให้ผู้รับทุนเริ่มใช้คืนเงินกู้  โดยจะยึดโยงกับความสามารถในการหารายได้ในอนาคต


คุณสมบัติผู้มีสิทธิ์กู้ยืมเงิน

1.มีสัญชาติไท
2.อายุไม่เกิน  30  ปีบริบูรณ์  ในวันที่ 1 มกราคม 2556
3.มิได้เป็นผู้รับทุนรายเก่าของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคต (กรอ.)
4.เป็นนักศึกษารายใหม่ที่ขอรับทุนเพื่อการศึกษาในชั้นปีที่ 1  ในปีการศึกษา  2555  ที่มิใช่ผู้กู้ยืมรายเก่าของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)  หรือเป็นนักศึกษาที่เป็นผู้กู้ยืมเงินรายเก่าของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา  (กยศ.)  ที่เปลี่ยนระดับจากชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่าทั้งสายสามัญและสายอาชีพเป็นระดับอาชีวศึกษาชั้นสูงหรือเทียบเท่าระดับอุดมศึกษาหรือเทียบเท่า  ในปีการศึกษา  2555
5.เป็นนักศึกษาในสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนในระดับการศึกษาอนุปริญญาตรีหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่าระดับปริญญาตรี  ตอบรับให้เข้าศึกษาโดยผ่านการคัดเลือกตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
6.นักศึกษาผู้มีสิทธิขอรับทุนจะต้องศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่มีรายชื่อเข้าร่วมโครงการเงินกู้เพื่อการศึกษาที่ผูกกับรายได้ในอนาคตตามประกาศของสำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
7.นักศึกษาที่มีสิทธิได้รับค่าครองชีพ  ต้องเป็นผู้มีรายได้ครอบครัวไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี และให้ได้รับค่าครองชีพในอัตราเดือนละ 2,200 บาท


การพิจารณารายได้ครอบครัว  ให้ผู้บริหารสถานศึกษาพิจารณากลั่นกรองข้อมูลตามหลักเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

1.รายได้รวมของนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของบิดาและมารดากรณีที่บิดา  มารดาเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง
2.รายได้รวมของนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของผู้ปกครองในกรณีที่ผู้ใช้อำนาจปกครองไม่ใช่บิดา  มารดา
3.รายได้รวมของนักศึกษาผู้ขอรับทุนรวมกับรายได้ของคู่สมรสในกรณีที่ผู้ขอรับทุนสมรสแล้ว


นักศึกษาผู้มีสิทธิขอรับทุนจะต้องศึกษาในระดับการศึกษาและหลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชาดังนี้

1.ระดับการศึกษา  ระดับอนุปริญญาตรี หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรือเทียบเท่า ระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่า
2.หลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชา เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกองทุนเพื่อการศึกษา  เรื่อง  กำหนดหลักสูตร/ประเภทวิชาและสาขาวิชาที่เป็นความต้องการหลักและมีความชัดเจนของการผลิตกำหลังคน สำหรับนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการปีการศึกษา  2555  พ.ศ.2555
3.นักศึกษาสามารถขอรับทุนได้เพียงหนึ่งหลักสูตรในแต่ละปีการศึกษาไม่เกินอัตราค่าเล่าเรียนที่สถานศึกษาเรียกเก็บ  ตามจำนวนปีที่กำหนดไว้ในแต่ละหลักสูตร  กรณีที่ผู้ขอรับทุนมีสิทธิเบิกค่าเล่าเรียนจากหน่วยงานของรัฐให้ผู้ขอรับทุนขอรับทุนเฉพาะค่าเล่าเรียนส่วนต่างเท่านั้น  ทั้งนี้  ต้องไม่เกินอัตราที่กำหนด ดังต่อไปนี้

ระดับอนุปริญญาตรีและปริญญาตรี
1.สัมคมศาสตร์  ศิลปศาสตร์  มนุษยศาสตร์  ศึกษาศาสตร์   อัตราสูงสุด 60,000 บาท/ปีการศึกษา
2.ศิลปกรรมศาสตร์  สถาปัตยกรรมศาสตร์ อัตราสูงสุด 70,000 บาท/ปีการศึกษา
3.วิศวกรรมศาสตร์  วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อัตราสูงสุด 70,000 บาท/ปีการศึกษา
4.เกษตรศาสตร์ อัตราสูงสุด 70,000 บาท/ปีการศึกษา
5.สาธารณสุขศาสตร์  พยาบาลศาสตร์  เภสัชศาสตร์ อัตราสูงสุด 90,000 บาท/ปีการศึกษา
6.แพทย์ศาสตร์  สัตวแพทย์ศาสตร์  ทันตแพทย์ศาสตร์ อัตราสูงสุด 200,000 บาท/ปีการศึกษา


นักศึกษาผู้ขอรับทุนจะต้องปฏิบัติดังนี้

1.ยื่นคำขอกู้ยืมผ่านระบบที่สำนักงานกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาจัดทำไว้ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ภายในระยะเวลาที่กำหนด
2.ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกู้ยืมตรงกับความเป็นจริง
3.ดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วยตนเอง  และต้องเก็บรักษารหัสผ่านที่ได้รับจากกองทุนเพื่อการศึกษาไว้เป็นความลับ  หากผู้ใดยินยอมให้บุคคลอื่นดำเนินการเกี่ยวกับการกู้ยืมเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนให้ถือว่าเป็นการดำเนินการด้วยตนเอง
4.แจ้งการเปลี่ยนชื่อ  ย้ายที่อยู่หรือย้ายสถานศึกษา  และจบการศึกษา หรือพ้นสภาพการเป็นนักศึกษา  ภายในสิบห้าวันนับแต่วันเปลี่ยนชื่อ  ย้ายที่อยู่  ย้ายสถานศึกษา  จบการศึกษา  หรือพ้นสภาพการเป็นนักศึกษาต่อผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม
5.แจ้งสภาพการเป็นนักศึกษาทุปีที่ผู้รับทุน(ผู้กู้ยืมเงิน)ไม่ได้รับทุนแต่ยังศึกษาอยู่  ต่อผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม